หลังเหตุการณ์เขื่อนดินกั้นลำน้ำหม่าไท่อันถล่มเมื่อวันที่ 23 กันยายน ส่งผลให้ตำบลกวงฟู่ ในเมืองฮัวเหลียนรับความเสียหายอย่างหนัก ขณะนี้ความช่วยเหลือทั้งเงินบริจาคและสิ่งของจำเป็นต่าง ๆ ยังคงหลั่งไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง มี “ซูเปอร์แมนพลั่ว” จำนวนไม่น้อยเดินทางไปช่วยขุดโคลน ทำความสะอาดพื้นที่ นอกจากแรงงานอินโดนีเซียและเวียดนามแล้ว ยังมีแรงงานชาวไทยจำนวนมากที่ รุดหน้าไปยังพื้นที่ภัยพิบัติในช่วงหยุดยาววันครู 3 วัน เพื่อช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัยอย่างเงียบ ๆ การกระทำที่ดูแสนจะเรียบง่าย ธรรมดานี้ กลับสร้างความประทับใจและตื้นตันใจให้แก่ชาวเน็ตอย่างมาก
เมื่อวันที่ 27 กันยายน แรงงานไทยคนหนึ่งได้โพสต์ภาพและเขียนเรื่องราวที่เขากับเพื่อนๆแรงงานไทยคนอื่น ๆ เดินทางไปช่วยฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยที่ตำบลกวงฟู่ เมืองฮัวเหลียนบนเฟซบุ๊กส่วนตัวและในกลุ่ม “เพื่อนไทยในไต้หวัน” ข้อความระบุว่า “หยุดยาว3วัน เกาสง-ฮัวเหลียน ขอเป็นกู้ภัยสัก3วันน้ำใจคนไทยครับ ” และในวันที่ 29 กันยายน ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของวันหยุดยาว เขาได้โพสต์ด้วยความอาลัยว่า “ภารกิจเข้าสู่วันที่3แล้วนะครับ เสียดายต้องกลับไปทำหน้าที่การงาน มีความรู้สึกผูกพัน อยากอยู่ช่วยต่อนะ ขอให้คืนสู่สภาวะปกติโดยเร็วครับ (ฮัวเหลียน ใต้หวัน) ”
โพสต์ที่เกี่ยวข้องถูกแชร์ต่อไปยัง Threads และได้รับกดไลก์กว่า 34,000 ครั้ง ชาวเน็ตหลายคนแสดงความขอบคุณพร้อมระบุว่า นอกจากแรงงานเวียดนามและอินโดนีเซียแล้ว แรงงานไทยก็ได้ออกมาช่วยเหลือผู้ประสบภัยเช่นกัน เพียงแต่พวกเขาเป็นคนเรียบง่าย ชอบทำอะไรเงียบ ๆ ไม่ค่อยชอบเปิดเผย จึงแชร์ไปในกลุ่มเฟซบุ๊กแรงงานไทยเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีชาวเน็ตจำนวนมากเข้ามาคอมเมนต์ขอบคุณ เช่น “หวังว่าจะไม่มีคนไต้หวันที่มองพวกเขาอย่างมีอคติอีก” พวกเขาจากบ้านเกิดมาทำงานที่ไต้หวันอย่างตั้งใจ และยังรักไต้หวันมากกว่าบางคนเสียอีก” “เมื่อวานได้ไปอพยพขึ้นไปหลบภัยชั้นสองกับพวกเขา ทุกคนเป็นคนน่ารักมาก”
และยังมีบางคนแสดงความคิดเห็นว่า “ขอบคุณเหล่าซูเปอร์ฮีโร่ช่วยเหลือภัยพิบัติจากเวียดนาม อินโดนีเซีย และไทย พวกเขาต้องทำงานหนักในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว แต่ยังเสียสละวันหยุดเพื่อมาช่วยฟื้นฟูพื้นที่ภัยพิบัติร่วมกัน นอกจากนี้ยังมีซูเปอร์ฮีโร่จากประเทศอื่น ๆ ด้วย ขอบคุณที่มาร่วมกันมอบความรักให้ไต้หวัน พวกเราจะจดจำบุญคุณนี้ไว้เสมอ” และอีกข้อความเขียนว่า “พวกเขาทุกคนเป็นคนน่ารักมาก เจอเมื่อไรก็สุภาพอ่อนน้อมเสมอ หวังว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์แรงงานต่างชาติถูกกลั่นแกล้งหรือถูกเอารัดเอาเปรียบอีกต่อไป”

