การแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ยังคงพุ่งสูงขึ้น เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม กรมควบคุมโรคแถลงว่า สัปดาห์ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 16 ราย โดยผู้เสียชีวิตที่มีอายุน้อยที่สุดมีอายุเพียง 5 ปี และเสียชีวิตภายใน 10 วันหลังป่วย นอกจากนี้ ยังมีผู้เสียชีวิตอีกราย เป็นหญิงวัย 40 กว่าปี เนื่องจากมีโรคตับเรื้อรังอยู่ก่อนแล้ว ส่งผลให้อาการลุกลามอย่างรวดเร็ว และเสียชีวิตในเวลาประมาณ 2 สัปดาห์หลังติดเชื้อ

โครงการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่และวัคซีนโควิด-19 ได้เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม คุณเจิงสูฮุ่ย (曾淑慧) โฆษกกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการไต้หวัน ชี้แจงว่า จนถึง ณ วันที่ 6 ตุลาคม มีผู้รับวัคซีนไข้หวัดใหญ่แล้วประมาณ 1,068,000 คนครั้ง เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่ผู้รับวัคซีนโควิด-19 อยู่ที่ประมาณ 295,000 คนครั้ง

จากสถิติล่าสุดของกรมควบคุมโรค ระหว่างวันที่ 28 กันยายน ถึง 4 ตุลาคม  มีผู้เข้ารับการรักษาในแผนกผู้ป่วยนอกและแผนกฉุกเฉินด้วยอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่รวมทั้งสิ้น 150,251 ราย  เพิ่มขึ้น 13.5% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า โดยแนวโน้มล่าสุดแสดงให้เห็นว่า โรคไข้หวัดใหญ่ยังคงอยู่ในช่วงการแพร่ระบาด จากข้อมูลการเฝ้าระวังของห้องปฏิบัติการพบว่า เชื้อก่อโรคทางเดินหายใจที่กำลังแพร่ระบาดในชุมชนขณะนี้ ส่วนใหญ่เป็นไวรัสไข้หวัดใหญ่ โดยสายพันธุ์ A/H3N2 เป็นสายพันธ์ุที่พบมากที่สุด รองลงมาคือ A/H1N1 และสายพันธุ์  B

คุณเจิงสูฮุ่ยเผยว่า โครงการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ฟรีประจำปี เริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมแล้ว ขอให้ประชาชนตรวจสอบข้อมูลของสถานพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ฟรีของรัฐ จากเว็บไซต์กองอนามัยในพื้นที่ หรือเว็บไซต์ของกรมควบคุมโรค เพื่อให้สามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนได้อย่างราบรื่น

นอกจากนี้ คุณเจิงสูฮุ่ย ย้ำเตือนว่า แม้ว่าสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ในไต้หวันจะอยู่ในระดับต่ำ แต่ประเทศเพื่อนบ้านอย่างญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และสหรัฐอเมริกา ต่างก็กำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้ ยอดการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในไต้หวันยังต่ำกว่าวัคซีนไข้หวัดใหญ่ แต่ความเสี่ยงในการเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ยังคงสูงกว่าไข้หวัดใหญ่ถึง 2 เท่า จึงขอให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงสูง ยังคงต้องเข้ารับการฉีดวัคซีนต่อไป