การประชุมผู้นำกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย - แปซิฟิก (APEC Economic Leaders' Meeting, AELM) ประจำปี พ.ศ. 2568 มีกำหนดจัดขึ้น ณ เมืองคยองจู ประเทศเกาหลีใต้ ในระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม ถึง 1 พฤศจิกายน 2568 นางกัวหย่าฮุ่ย (郭雅慧) โฆษกประจำทำเนียบประธานาธิบดี สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) แถลงในวันนี้ (8 พฤศจิกายน) ว่า หลังจากการพิจารณาอย่างถี่ถ้วน ประธานาธิบดีไล่ชิงเต๋อ ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้แต่งตั้งให้นายหลินซิ่นอี้ (林信義) ประธานคณะกรรมการบริหารบริษัท Taiwania Capital และที่ปรึกษาทำเนียบประธานาธิบดี เป็นตัวแทนของผู้นำไต้หวัน เข้าร่วมการประชุม AELM ภายใต้กรอบเอเปค (APEC) ประจำปีพ.ศ. 2568
นางกัวหย่าฮุ่ยระบุว่า นายหลินฯ ได้มีโอกาสเข้าร่วมการประชุมเอเปคในตัวแทนไต้หวันถึงสองครั้ง ได้แก่ในปี พ.ศ. 2548 และ พ.ศ.2567 มีความคุ้นเคยต่อการบริหารงานและประเด็นของกรอบความร่วมมือเอเปคอย่างลึกซึ้ง จึงเป็นบุคคลที่เหมาะสมที่สุดที่จะเป็นตัวแทนของประธานาธิบดีไล่ฯ เพื่อเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคในปีนี้
หัวข้อการประชุมภายใต้กรอบเอเปคที่จัดขึ้นในประเทศเกาหลีใต้ประจำปีนี้ คือ “การสร้างอนาคตที่ยั่งยืน” (Building a Sustainable Tomorrow) โดยมี 3 ประเด็นหลัก ประเด็นแรกคือการเชื่อมต่อ : เสริมสร้างความเชื่อมโยงผ่านการส่งเสริมการค้าและการลงทุน รวมถึงการผลักดันให้เกิดการเชื่อมโยงทั้งด้านกายภาพ ระบบสถาบันและความสัมพันธ์ระหว่างผู้คน ประเด็นที่สองคือนวัตกรรม : ส่งเสริมการสร้างนวัตกรรมดิจิทัลผ่านการลดช่องว่างทางดิจิทัลและความร่วมมือด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ประเด็นที่สามคือ ความเจริญรุ่งเรือง : รับมือกับความท้าทายระดับโลกเพื่อบรรลุเป้าหมายการเติบโตและความเจริญรุ่งเรืองที่ยั่งยืนและครอบคลุม ในบรรดาประเด็นเหล่านี้ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการรับมือกับความท้าทายด้านโครงสร้างประชากร เป็นสองประเด็นหลักที่สอดคล้องอย่างยิ่งกับแนวทางของประธานาธิบดีไล่ฯ ในการตั้งเป้าให้ไต้หวันก้าวสู่การเป็น “เกาะแห่งปัญญาประดิษฐ์ ” โดยเสนอวิสัยทัศน์การผลักดันให้ ไต้หวันมีสุขภาพดี และเร่งดำเนินนโยบายต่าง ๆ เช่น การพัฒนาชิป AI การผลิตอัจฉริยะ การแพทย์อัจฉริยะ และการบริหารจัดการด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล
นายหลินฯมีประสบการณ์การทำงานในภาคอุตสาหกรรมมาอย่างยาวนาน และมีประสบการณ์ทั้งในด้านการวางนโยบายและการดำเนินการตามนโยบายเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ มีความเข้าใจพัฒนาการของอุตสาหกรรมภายในประเทศและสถานการณ์การค้าโลกอย่างลึกซึ้ง จึงเชื่อมั่นว่าเขาจะสามารถถ่ายทอดวิสัยทัศน์และผลลัพธ์ของนโยบายการบริหารประเทศของไต้หวันในการประชุมเอเปคได้อย่างครบถ้วน และบรรลุภารกิจที่ประธานาธิบดีไล่ฯมอบหมายให้สำเร็จลุล่วงอย่างสมบูรณ์