เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน สถาบัน IMD (International Institute for Management Development) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ได้ประกาศผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโลกประจำปี 2025 (IMD World Digital Competitiveness Ranking 2025, DCR) พบว่า ไต้หวันคว้าอันดับที่ 10 ของโลก ลดลง 1 อันดับเมื่อเทียบกับปี 2024 จาก 69 ประเทศ/เขตเศรษฐกิจทั่วโลก
การจัดอันดับความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลของ IMD เป็นการวัดศักยภาพและความพร้อมของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกในการปรับตัว สำรวจ และนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการพัฒนาเพื่อเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล โดยประเมินจากปัจจัยหลัก 3 ด้าน ได้แก่ ความรู้ (Knowledge) เทคโนโลยี (Technology) และความพร้อมสำหรับอนาคต (Future Readiness) และ 61 ตัวชี้วัด
กระทรวงดิจิทัลไต้หวัน ระบุว่า ไต้หวันติดอันดับท็อป 3 ของโลกจาก 8 ตัวชี้วัดในการสำรวจครั้งนี้ สะท้อนถึงความแข็งแกร่งในสาขาดิจิทัลเฉพาะด้าน โดยเฉพาะด้านศักยภาพการวิจัยและพัฒนา การศึกษาระดับอุดมศึกษา และความคล่องตัวของภาคธุรกิจ ซึ่งถือเป็นการวางรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการพัฒนาอุตสาหกรรม AI และการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล
ผลการประเมินปัจจัยหลัก 3 ด้าน พบว่า ไต้หวันมีผลงานโดดเด่นในด้านความพร้อมสำหรับอนาคต ถูกจัดอยู่อันดับที่ 3 ของโลก ซึ่งดีขึ้น 3 อันดับเมื่อเทียบกับปี 2024 ด้านเทคโนโลยี อยู่อันดับที่ 11 และด้านความรู้ อยู่อันดับที่ 16

กระทรวงดิจิทัลระบุว่า ปัจจัยด้านความรู้ สะท้อนถึงความสามารถในการเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ ๆ ของประเทศ ไต้หวันอยู่ในอันดับที่ 16 ของโลก เพิ่มขึ้น 3 อันดับเมื่อเทียบกับปี 2024 ส่วนปัจจัยด้านความพร้อมสำหรับอนาคต เป็นเพื่อวัดระดับการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล โดยหลายตัวชี้วัดมีอันดับที่ดีขึ้น ซึ่งไม่เพียงสะท้อนถึงความสามารถในการแข่งขันสูงของความคล่องตัว ของภาคธุรกิจมีความสามารถในการแข่งขันสูง แต่ยังแสดงให้เห็นถึงผลลัพธ์ของภาครัฐในการส่งเสริมความร่วมมือด้านเทคโนโลยีระหว่างภาครัฐและเอกชน และการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งสะท้อนถึงความยืดหยุ่นของสาธารณชนในการรับมือกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมออีกด้วย
ปัจจัยด้านเทคโนโลยี เป็นการประเมินขีดความสามารถของประเทศในการพัฒนาเทคโนโลยีนวัตกรรมดิจิทัล โดยไต้หวันอยู่ในอันดับที่ 11 ของโลก ลดลง 4 อันดับเมื่อเทียบกับปี 2024 กระทรวงดิจิทัลระบุว่า ไต้หวันจะมุ่งมั่นพัฒนาสภาพแวดล้อมทางกฎหมายให้เอื้อต่อการพัฒนาและการประยุกต์ใช้ AI และดำเนินนโยบายอุตสาหกรรม AI จากมุมมองเชิงผลิตภัณฑ์ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพื่อผลักดันสู่การลงทุนในอุตสาหกรรม AI ที่เพิ่มมากขึ้น