ธีระ หยาง 亓淞 และเจาะลึกกีฬาโลก 體育世界 ประจำสัปดาห์นี้ (2025-08-28)

- นักเทนนิสสาวไต้หวัน จันเฮ่าฉิง (ซ้าย) สร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในการแข่งขันที่ถือเป็นการอุ่นเครื่องสำคัญก่อนลงศึกยูเอสโอเพน โดยเธอจับคู่กับนักหวดสาวจีน เจี่ยงซินอวี่ (ขวา) ทะลุเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศประเภทหญิงคู่ ในการแข่งขัน คลีฟแลนด์ ดับเบิลยูทีเอ 250 ก่อนจะพ่ายให้กับคู่ผสม “คาซัค–เซอร์เบีย” อย่าง แอนนา ดานิลินา (Anna Danilina) / อเล็กซานดร้า ครูนิช (Aleksandra Krunic) ไปอย่างสูสี 0-2 ด้วยสกอร์ 6-7 (ไทเบรค 3-7) และ 4-6 แม้จะพลาดแชมป์ แต่การคว้ารองแชมป์ก็ยังถือเป็นผลงานที่ดีที่สุดของเธอทั้งในฤดูกาลนี้และในรายการที่คลีฟแลนด์ โดยในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ เจี่ยงซินอวี่เคยจับคู่กับนักหวดไต้หวันอีกคนหนึ่งคือ อู๋ฟางเสียน โดยสามารถทำผลงานได้ยอดเยี่ยมเช่นกัน โดยคว้า 2 แชมป์ 1 รองแชมป์ ได้แก่แชมป์ที่ โอ๊คแลนด์ และ โฮบาร์ต และยังทะลุถึงรอบชิงชนะเลิศที่ โดฮา ในตะวันออกกลาง แต่หลังจากเข้าสู่ฤดูกาลฮาร์ดคอร์ทในอเมริกาเหนือ เจียงเปลี่ยนมาจับคู่กับจันเฮ่าฉิง ซึ่งผลงานช่วงแรกยังไม่เปรี้ยง – ทั้งที่วอชิงตันและมอนทรีออลจอดเพียงรอบก่อนรองฯ (8 คนสุดท้าย) ส่วนที่ซินซินเนติแพ้ตั้งแต่รอบแรก รายการคลีฟแลนด์กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของ “คู่หูจัน-เจี่ยง” ซึ่งทำให้จันเฮ่าฉิงสามารถทะลุกรอบก่อนรองฯ ที่ตามหลอนมาตลอด 21 รายการก่อนหน้านี้ และไปจนถึงรอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ โดยในเซ็ตแรก แม้จะถูกเบรกเสิร์ฟก่อน แต่พวกเธอก็เบรกคืนได้ถึง 2 ครั้ง โดยเฉพาะเกมที่ 12 ที่เซฟ 2 เซ็ตพอยต์สำคัญ ก่อนจะตีเสมอและลากเข้าสู่ไทเบรก แต่สุดท้ายพ่ายไป 3-7 ส่วนเซ็ตที่สอง เกมดำเนินไปสูสี แต่คู่ไต้หวัน–จีนถูกเบรกในเกมที่ 8 แม้จะแก้คืนในเกมถัดมา แต่ในเกมที่ 10 กลับเสียเสิร์ฟอีกครั้ง ทำให้แพ้ไป 4-6 ส่งผลให้คู่ดานิลินา/ครูนิชคว้าแชมป์ไปครอง ส่วนจันเฮ่าฉิงกับเจี่ยงซินอวี่ได้แค่รองแชมป์

- หลี่หยาง นักแบดคนดัง เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิกสองสมัย ยืนยันเข้ารับตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกีฬา คนแรกของไต้หวัน และกลายเป็นจุดสนใจในแวดวงกีฬา โดยเจ้าตัวได้ออกมาชี้แจงถึงการก้าวสู่เส้นทางการเมืองครั้งนี้ พร้อมประกาศจะเริ่มต้นด้วย 6 แนวทางหลัก โดยย้ำว่า “นี่คือการเดินทางครั้งใหม่ แต่หัวใจและเจตนารมณ์ไม่เคยเปลี่ยน”  โดย 6 แนวทางหลักที่หลี่หยางประกาศ ได้แก่ ผลักดันกีฬาเพื่อมวลชนอย่างแท้จริง – ทำให้การกีฬาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของทุกคน บูรณาการทรัพยากรเพื่อพัฒนากีฬาด้านการแข่งขัน – เชื่อมโยงระหว่างกระทรวงกีฬา ศูนย์ฝึกทีมชาติ และสมาคมกีฬา เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรและแข่งขันได้มากขึ้น ส่งเสริมการแข่งขันและการแลกเปลี่ยนระดับนานาชาติ – เพื่อให้โลกได้เห็นพลังและเสน่ห์ของกีฬาจากไต้หวัน กระตุ้นการเติบโตของอุตสาหกรรมกีฬา – สนับสนุนการสร้างนวัตกรรม ความร่วมมือข้ามวงการ และเพิ่มอิทธิพลทางเศรษฐกิจของกีฬา ส่งเสริมความยั่งยืนและคุณค่าที่หลากหลาย – ใช้กีฬาเป็นแรงผลักดันด้านความเสมอภาคทางเพศ สนับสนุนกีฬาสำหรับผู้พิการ เสริมพลังชุมชน และดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุ ลงทุนในการสร้างเยาวชนและรากฐานการกีฬา – เริ่มตั้งแต่เด็กและวัยรุ่น จากโรงเรียนและชุมชน ปลูกฝังระบบการพัฒนาบุคลากรระยะยาว เพื่อให้เด็ก ๆ กล้าฝัน และมีโอกาสทำความฝันให้เป็นจริง โดยหลี่หยางชี้ว่า “ผมรู้ดีว่านี่ไม่ใช่ก้าวที่ง่ายดาย แต่ผมเชื่อมาโดยตลอดว่า – ไม่กลัวความท้าทาย เพราะเบื้องหลังของผมยังมีทุกคนอยู่ ขอบคุณสำหรับการสนับสนุน และขอเชิญชวนทุกคนมาร่วมกันใช้พลังของกีฬาเพื่อทำให้ไต้หวันดียิ่งขึ้น” สำหรับประเด็นที่หลายคนกังวลเกี่ยวกับความเกี่ยวพันทางธุรกิจ หลี่หยางยืนยันว่า ได้ดำเนินการตามขั้นตอนด้านกฎระเบียบครบถ้วนแล้ว เพื่อแยกแยะระหว่างงานราชการกับผลประโยชน์ส่วนตัวอย่างชัดเจน ป้องกันการเกิดข้อโต้แย้งในอนาคต และจะทุ่มเทเต็มกำลังให้กับหน้าที่รัฐมนตรี โดยมีรายงานข่าวในไต้หวันว่า เจ้าตัวอาจต้องยอมทิ้งรายได้จากการเป็นพรีเซนเตอร์สินค้า/บริการมากมาย คิดเป็นมูลค่าถึง 30 ล้านเหรียญไต้หวัน เพื่อมารับเงินเดือนในตำแหน่งรัฐมนตรีที่จะมีรายได้ 300,000 เหรียญไต้หวัน/เดือน