ธีระ หยาง 亓淞 และบันเทิงดอทคอม 娛樂達康 ประจำสัปดาห์นี้ (2025-09-07)
- ทักทายกันด้วยผลงานล่าสุดของ เซียวหวงฉี นักร้องตาบอดกับอัลบั้มเพลงไต้หวันชุดใหม่ ที่ถ่ายทอดน้ำหนักของความรักทุกรูปแบบ ท่ามกลางบรรยากาศที่สนุกสนานและอบอุ่น เขาไม่เห็นโลก แต่กลับเข้าใจหัวใจผู้คน ไม่เห็นโลก แต่กลับมองเห็นชีวิตได้ชัดเจนกว่าใคร กับอัลบั้มเพลงภาษาไต้หวันชุด 做一個惜情軟心的人 (จั้ว อี เกอะ สี ฉิง หร่วน ซิน เตอะ เหริน - เป็นคนที่หัวใจอ่อนโยนและเห็นคุณค่าของความสัมพันธ์) ในยุคที่ความสัมพันธ์เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เซียวหวงฉี เลือกที่จะร้องเพลงอย่างช้าๆ และรักอย่างลึกซึ้ง เขายังคงออกผลงานใหม่ปีละสองชุดอย่างสม่ำเสมอ คืออัลบั้มเพลงจีนกลางหนึ่งชุดและอัลบั้มเพลงไต้หวันอีกหนึ่งชุด สำหรับอัลบั้มไต้หวันในปีนี้ "เป็นคนหัวใจอ่อนโยนและเห็นคุณค่าของความสัมพันธ์" เป็นอัลบั้มที่รวบรวมเรื่องราวความรัก ครอบครัว และชีวิต ตั้งแต่บทเพลงไปจนถึงงานออกแบบ อัลบั้มนี้เต็มไปด้วยความอ่อนโยนและอารมณ์ขันเล็กน้อย เขาร้องเพลงเกี่ยวกับความปรารถนาในความรัก ความผูกพันกับครอบครัว และความน่ารักน่าขันของชีวิตประจำวัน นี่ไม่ใช่แค่เพียงอัลบั้มเพลง แต่ยังเป็นคำเตือนใจว่า การเป็นคนที่มีหัวใจอ่อนโยนและเห็นคุณค่าในความสัมพันธ์เท่านั้นที่จะทำให้ได้พบกับความสุขที่แท้จริง

- พร้อมฟังเพลงสนุกๆ อีกเพลงของเซียวหวงฉี ในเพลง 你攏無咧看 (ลื้อไม่ได้มองเลยเหรอ) ชื่อเพลงนี้อาจฟังดูเหมือนเป็น "มุกตลกจากนรก" ที่เขาถนัดอีกครั้ง แต่จริงๆ แล้วเนื้อหาเพลงนี้ต้องการเตือนให้ทุกคนสังเกตสิ่งต่าง ๆ ก่อนที่จะตัดสินถูกผิดหรือดีชั่ว สิ่งที่น่าสนใจคือมิวสิกวิดีโอเพลงนี้มีศิลปินรุ่นน้องร่วมค่าย FEniX มาร่วมแสดงด้วย โดยรับบทเป็น "คณะแสวงบุญจากศาลเจ้าฟีนิกซ์" ที่เดินทางไปกับขบวนแห่เจ้าแม่มาจู่ ส่วนเซียวหวงฉี หลังจากเคยรับบทเป็นคนขับรถแท็กซี่ในอัลบั้มที่แล้ว ครั้งนี้เขาก็ได้อัปเกรดเป็น คนขับรถบัสทัวร์ ทำให้เขาหัวเราะอย่างมีความสุขและกล่าวว่า "ทำความฝันให้เป็นจริงอีกครั้ง!"

- เมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 7 กันยายน ที่ผ่านมา ตามเวลาในไต้หวัน ได้มีการประกาศผลรางวัลเทศกาลภาพยนตร์เวนิส ครั้งที่ 82 ซึ่งผลงานสร้างสรรค์ด้าน VR (Virtual Reality) ของไต้หวัน เรื่อง The Clouds Are Two Thousand Meters Up ก็สามารถคว้ารางวัลสูงสุด Venice Immersive Grand Prize จากการประกวด Venice Immersive ของเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเวนิส ซึ่งมีภาพยนตร์ที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงถึง 30 เรื่องจากทั่วโลก นับเป็นรางวัลอันทรงเกียรติสูงสุดในสาขาดังกล่าว และยังเป็นครั้งที่สองที่ผู้กำกับ เฉินซินอี๋ ได้รับรางวัลนี้ ถัดจากผลงานเรื่องก่อนหน้าอย่าง “The Man Who Couldn't Leave” ผู้กำกับเฉินฯ กล่าวด้วยความตื้นตันใจบนเวทีมอบรางวัลว่า “ต้องขอขอบคุณ อู๋หมิงอี้ ที่แต่งเรื่องราวที่งดงามเช่นนี้ 'The Clouds Are Two Thousand Meters Up' เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความโศกเศร้า ความทรงจำ ความรัก และวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของไต้หวัน ฉันได้นำประสบการณ์ของตัวเองในการสร้างภาพยนตร์ การแสดงละครเวที มาผสมผสานในชิ้นงานนี้ เราหวังว่าจะสามารถพาผู้ชมให้ก้าวเข้าสู่เรื่องราวได้อย่างสมบูรณ์ และสัมผัสกับเส้นทางทางอารมณ์ของการสูญเสียและการเชื่อมโยงด้วยประสบการณ์ดื่มด่ำรูปแบบใหม่นี้” “The Clouds Are Two Thousand Meters Up” เปิดฉายในเทศกาลภาพยนตร์เวนิสเป็นเวลา 11 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 สิงหาคมถึง 6 กันยายน และ บัตรเข้าชมเต็มทุกรอบ! หายากยิ่งกว่าทองคำ! ทันทีที่เปิดให้เข้าชมในแต่ละวัน ก็มีผู้คนมากมายเข้าคิวเพื่อลงทะเบียนสำรองที่นั่ง แม้แต่เจ้าของร้านอาหารใกล้เคียงยังวิ่งมา เพราะได้ยินทุกคนพูดถึงภาพยนตร์เรื่องนี้ และผู้ชมและคนในแวดวงอุตสาหกรรมหลายคนที่ได้สัมผัสประสบการณ์แล้วก็ต่างให้การประเมินผลงานนี้ในระดับสูงว่า “ผลงานนี้เหนือความคาดหมายของผมไปอย่างสิ้นเชิง!” และ “ผมคิดว่านี่อาจเป็นอนาคตของภาพยนตร์”

- ซูฉี ดาราสาวไต้หวันคนดัง ได้กำกับภาพยนตร์เรื่องยาวเรื่องแรกของเธอ คือเรื่อง Girl ซึ่งได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลสิงโตทองคำ (Golden Lion) ซึ่งเป็นรางวัลสูงสุดในสาขาภาพยนตร์หลักของเทศกาลภาพยนตร์เวนิสครั้งที่ 82 ที่จัดขึ้นในปีนี้ ภาพยนตร์เรื่องนี้ฉายรอบปฐมทัศน์เมื่อเย็นวันที่ 4 กันยายน ตามเวลาในไต้หวัน ณ เมืองเวนิส ซูฉีปรากฏตัวอย่างงดงาม และหลังภาพยนตร์จบลง ผู้ชมทั้งโรงภาพยนตร์ก็พร้อมใจกันลุกขึ้นยืนปรบมือดังก้องยาวนานถึง 15 นาที เสียงปรบมือและเสียงชื่นชมดังไปทั่วห้องโถง การที่ภาพยนตร์กำกับเรื่องแรกของเธอได้รับเสียงตอบรับที่อบอุ่นและยืนยันในฝีมือขนาดนี้ ทำให้ซูฉีรู้สึกตื้นตันใจจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ซูฉีได้แบ่งปันความรู้สึกในการกำกับภาพยนตร์ครั้งแรกว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างขึ้นจากพื้นฐานของความทรงจำอันเจ็บปวดในวัยเด็กของเธอที่ต้องอยู่กับ "พ่อที่ติดเหล้า" ตัวละครที่รับบทโดยไป๋เสี่ยวอิง (Bai Xiaoying) ในภาพยนตร์ในชื่อ “หลิน เสี่ยวลี่” (Lin Xiaoli) ซึ่งเป็นเด็กผู้หญิงที่ขี้อายและหวาดกลัวนั้น เธอสร้างจากต้นแบบของตัวเอง แต่เมื่อถ่ายทำจนเสร็จสิ้น ตัวละครนี้กลับสะท้อนประสบการณ์ชีวิตของเธอจริงๆ เพียง 30% เท่านั้น เธอยังยอมรับอีกว่า “เหตุผลหลักที่ฉันสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ขึ้นมานั้นเกี่ยวข้องกับประสบการณ์ในวัยเด็กของฉัน และบาดแผลที่หลงเหลือจากประสบการณ์เหล่านั้นยังคงอยู่จนถึงทุกวันนี้” ซูฉีเล่าว่าเธอเริ่มเขียนบทภาพยนตร์เรื่อง “Girl” เมื่อ 10 ปีที่แล้ว และเขียนเสร็จในปี 2023 ซึ่งเป็นปีที่เธอได้รับเชิญเป็นคณะกรรมการตัดสินในเทศกาลภาพยนตร์เวนิส (Venice Film Festival) พอดี และนั่นก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้เธอเขียนบทเสร็จสมบูรณ์ หลังจากภาพยนตร์สร้างเสร็จ ซูฉีก็ได้บอกกับพ่อที่ยังคงติดเหล้าจนถึงทุกวันนี้ว่า “หนูขอโทษที่เอาเรื่องราวของพ่อมาขึ้นจอใหญ่”
