1. ขับขี่ปลอดภัยลดอุบัติเหตุได้! ไต้หวันส่งเสริมชาวต่างชาติสอบใบขับขี่รถจักรยานยนต์ อบรมและสมัครสอบก่อน 30 พ.ย. 68 สนับสนุนค่าใช้จ่ายสูงสุดคนละ 3,800 เหรียญ ยังอำนวยความสะดวก เลือกข้อสอบภาษาไทยได้...

การอาศัยอยู่ในไต้หวัน แม้จะมีระบบขนสาธารณะที่แสนจะสะดวก ราคาไม่แพง แต่ผู้คนจำนวนมากยังนิยมขับรถหรือขับขี่มอเตอร์ไซค์ จากข้อมูลของกระทรวงคมนาคม ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2568 ในไต้หวันมีรถจักรยานยนต์กว่า 14.5 ล้านคัน ความหนาแน่นมากอันดับต้น ๆ ของโลก

ครูฝึกในโรงเรียนสอนขี่มอเตอร์ไซค์แห่งหนึ่งในนครนิวไทเป กำลังพานักเรียนขี่จริงบนถนน (ภาพจาก traffic-tad.ntpc.gov.tw)
สำหรับคนไทยในไต้หวันไม่ว่าจะทำงาน ตั้งถิ่นฐานหรือเดินทางมาศึกษาต่อ ก็มีจำนวนไม่น้อยที่ขับขี่รถจักรยานยนต์หรือมอเตอร์ไซค์ ส่วนใหญ่มีใบขับขี่ถูกกฎหมาย ซึ่งอาจใช้วิธีใช้ใบขับขี่ไทยไปแล้วตามขั้นตอนที่ทางการกำหนด บางคนไม่มีใบขับขี่ และมีจำนวนหนึ่งที่ขี่รถจักรยานไฟฟ้า เนื่องจากกฎจราจรในไต้หวันแตกต่างจากของไทย โดยเฉพาะเลนถนนและขั้นตอนการเลี้ยวที่สี่แยก แม้จะมีใบขับขี่ไทยแลกเป็นใบขับขี่ไต้หวันแล้ว หรือคนขี่รถจักรยานไฟฟ้าที่ไม่ต้องมีใบขับขี่ เพื่อความปลอดภัย แนะนำว่า ควรจะเรียนหรืออบรมและสอบใบขับขี่ไต้หวัน จะช่วยให้เราขับขี่ปลอดภัยและลดความเสี่ยงโดนใบสั่งต้องเสียค่าปรับ และช่วงนี้จนถึง 30 พ.ย. 2568 หากไปเรียนและสอบใบขับขี่รถจักรยานยนต์ไต้หวัน กระทรวงคมนาคมไต้หวันมีเงินสนับสนุนในการเข้ารับการฝึกอบรมขับขี่รถจักรยานยนต์คนละ 1,300 เหรียญ สูงสุด 3,800 เหรียญต่อคน ชาวต่างชาติก็มีสิทธิ์ ที่พิเศษสำหรับชาวต่างชาติคือ เวลาสอบใบขับขี่ มีข้อสอบภาษาต่างประเทศถึง 8 ภาษา รวมข้อสอบฉบับภาษาไทยให้เลือกสอบได้ นอกจากนี้ ยังมีคลังข้อสอบย้อนหลังออนไลน์ ให้สามารถทดลองทำข้อสอบผ่านแอปพลิเคชัน ก่อนที่จะไปสอบจริงได้ด้วย

ครูฝึกในโรงเรียนสอนขี่มอเตอร์ไซค์แห่งหนึ่งในนครนิวไทเป กำลังพานักเรียนขี่จริงบนถนน (ภาพจาก traffic-tad.ntpc.gov.tw)
ทีนี้มาดูโครงการสนับสนุนการอบรมและสอบใบขับขี่รถจักรยานยนต์ของไต้หวันดังกล่าว ซึ่งมีการยกระดับการอบรมถึงเวอร์ชัน 3.0 ผู้ผ่านการอบรมจะได้รับรับเงินสนับสนุนสูงสุด 3,800 เหรียญไต้หวัน

ครูฝึกในโรงเรียนสอนขี่มอเตอร์ไซค์แห่งหนึ่งในนครนิวไทเป กำลังพานักเรียนขี่จริงบนถนน (ภาพจาก traffic-tad.ntpc.gov.tw)
กระทรวงคมนาคมไต้หวันประกาศ ผู้ที่มีความประสงค์จะสอบใบอนุญาตขับขี่รถจักรยานยนต์ ซึ่งรวมชาวต่างชาติด้วยโปรดทราบ! เพื่อส่งเสริมให้ผู้ขับขี่เข้ารับการอบรมก่อนสอบใบขับขี่ เสริมสร้างความรู้ด้านป้ายจราจร เครื่องหมายจราจร และสัญญาณไฟจราจร ลดการกระทำผิดกฎจราจรและความเสี่ยงจากอุบัติเหตุ ตลอดจนพัฒนาทักษะการขับขี่และความปลอดภัยบนท้องถนนอย่างต่อเนื่อง กรมการขนส่งทางหลวง กระทรวงคมนาคม ประกาศขยายโครงการสนับสนุนการอบรมขับขี่รถจักรยานยนต์ไปจนถึง 30 พ.ย. 2025 พร้อมเปิดตัวรูปแบบใหม่ “การอบรม 3.0” ที่ผสานกับโครงการสนับสนุนเดิม โดยสามารถรับเงินสนับสนุนสูงสุด 3,800 เหรียญไต้หวัน ทั้งนี้ จำนวนผู้เข้าร่วมมีจำกัด ขอให้รีบสมัครโดยเร็ว

สนามสอบภาคปฏิบัติในกองทะเบียนยานยนต์เถาหยวน (ภาพจากกองทะเบียนยานยนต์ นครเถาหยวน)
ตามแผนของกรมการขนส่งทางหลวง ผู้ประสงค์สอบใบขับขี่รถจักรยานยนต์สามารถขอรับเงินสนับสนุนได้ 3 ช่องทาง ดังนี้ :
1. เมื่อเข้าร่วมหลักสูตรอบรมขับขี่รถจักรยานยนต์ครบถ้วนที่ที่โรงเรียนสอยขับรถและสอบผ่าน จะได้รับเงินสนับสนุน 1,300 เหรียญไต้หวัน
2. สำหรับผู้ที่มีใบขับขี่แล้ว หากเข้าร่วมการฝึกอบรมการขับขี่ปลอดภัยบนถนนจริง หรือที่เรียกว่าการอบรม 2.0 จะได้รับเงินสนับสนุน 1,200 เหรียญไต้หวัน
3. สำหรับผู้ที่อยู่ระหว่างเรียนมีใบขับขี่ชั่วคราวจากโรงเรียน ก่อนสอบใบขับขี่ หากเข้าร่วมการฝึกอบรมการขับขี่ปลอดภัยบนถนนจริง หรือการอบรม 3.0 จะได้รับเงินสนับสนุน 2,500 เหรียญไต้หวัน

สนามสอบข้อเขียนที่กองทะเบียนยานยนต์จางฮั่ว (ภาพจากกองทะเบียนยานยนต์จางฮั่ว)
อย่างไรก็ตาม การสนับสนุนสำหรับการอบรม 2.0 และ 3.0 สามารถขอรับได้เพียงประเภทใดประเภทหนึ่งเท่านั้น อีกทั้งจำนวนผู้เข้าร่วมมีจำกัด จึงขอแนะนำให้ประชาชนรีบสมัครโดยเร็ว

สนามสอบภาคปฏิบัติในนครไทจง (ภาพจากกองทะเบียนยานยนต์ นครไทจง)
นับตั้งแต่ปี 2562 กระทรวงคมนาคมได้ผลักดันโครงการสนับสนุนการอบรมขับขี่รถจักรยานยนต์ เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนเข้าร่วมการอบรมอย่างเต็มรูปแบบ จนถึงปี 2567 มีผู้ได้รับประโยชน์แล้วกว่า 42,000 คน สะท้อนให้เห็นถึงความนิยมของโครงการดังกล่าว อีกทั้งตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นมา กรมการขนส่งทางหลวงได้เปิดตัว “การอบรม 2.0” สำหรับผู้ที่มีใบขับขี่แล้ว เพื่อเน้นการฝึกอบรมการขับขี่บนถนนจริง เช่น เทคนิคการเปลี่ยนเลน การหลีกเลี่ยงจุดบอดจากการเปิดประตูรถยนต์ การหยุดรถเพื่อให้คนข้ามทางม้าลาย การรับมือกับมุมเลี้ยวของรถบรรทุกขนาดใหญ่ และการใช้เบรกที่ถูกต้อง ซึ่งช่วยเสริมสร้างความตระหนักด้านความปลอดภัยและลดอุบัติเหตุจราจรได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากข้อมูลของกระทรวงคมนาคมพบว่า ผู้ที่เข้าร่วมการอบรมในสถาบันและการฝึกขับขี่ปลอดภัยบนถนนจริง มีความเสี่ยงในการกระทำผิดกฎจราจรลดลงถึง 59% และความเสี่ยงจากอุบัติเหตุลดลงถึง 36% แสดงให้เห็นผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมในการยกระดับความปลอดภัยทางถนน

สนามสอบภาคปฏิบัติในกองทะเบียนยานยนต์เถาหยวน (ภาพจากกองทะเบียนยานยนต์ นครเถาหยวน)
ในปี 2568 กรมการขนส่งทางหลวงมีการขยายจำนวนผู้เข้าร่วมโครงการ โดยหลักสูตรอบรมเต็มรูปแบบรองรับได้ 45,000 คน การอบรม 2.0 รองรับ 4,000 คน และการอบรม 3.0 ในระยะแรกรองรับ 2,000 คน นายเฉินซื่อข่าย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเน้นย้ำว่า โครงการสนับสนุนการอบรมขับขี่รถจักรยานยนต์เป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ไม่เพียงช่วยยกระดับทักษะการขับขี่ของผู้ใช้ถนน แต่ยังมุ่งสร้างสภาพแวดล้อมการจราจรที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น พร้อมทั้งเชิญชวนให้ประชาชนเข้าร่วมอย่างกว้างขวาง เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนน

สนามสอบภาคปฏิบัติในกองทะเบียนยานยนต์จางฮั่ว (ภาพจากกองทะเบียนยานยนต์เมืองจางฮั่ว)
นอกเงินสนับสนุนจากกระทรวงคมนาคมแล้ว ผู้สมัครอบรมขับขี่รถจักรยานยนต์ที่สถาบันอบรม พร้อมสอบผ่านภายในวันที่ 30 พ.ย. 2568 นี้ รัฐบาลท้องถิ่นแต่ละเมืองก็มีเพิ่มเงินสนับสนุนที่แตกต่างกันไป อย่างเช่น ผิงตงเพิ่มให้ 1,000 เหรียญ รวมเงินสนับสนุนจากส่วนกลาง 1,300 เหรียญเป็น 2,300 เหรียญ นครไทจง เพิ่มให้ 1,500 เหรียญ รวมกับเงินสนับสนุนจากส่วนกลาง ผู้สมัครเรียนและสอบใบขับขี่รถจักรยานยนต์ในนครไทจง จะได้รับเงินสนับสนุน 2,800 เหรียญ และยังมีการเพิ่มโควตาเงินสนับสนุนจาก 1,000 คนเป็น 3,000 คน เป็นต้น ก็เป็นโอกาสดีที่สำหรับชาวไทยในไต้หวัน ที่สนใจอยากจะสมัครเรียนหรืออบรมและใบสอบใบขับขี่ของไต้หวัน
2. เปลี่ยนใบขับขี่ไทยเป็นของไต้หวันง่ายสะดวก
สำหรับใครที่มีใบขับขี่รถยนต์หรือรถมอเตอร์ไซค์ของไทยอยู่แล้ว สามารถเปลี่ยนเป็นใบขับขี่ไต้หวันได้โดยไม่ยาก ไม่ต้องสอบใหม่ โดยขั้นตอนแรกต้องไปยื่นขอรับรองใบขับขี่ก่อนที่สำนักงานการค้าและเศรษฐกิจไทย ไทเป จากนั้นนำเอาใบรับรอง พร้อมด้วยเอกสารอื่น ๆ เช่นใบตรวจสุขภาพสำหรับเปลี่ยนใบขับขี่จากคลินิกหรือสถานพยาบาลไปขอเปลี่ยนเป็นใบขับขี่ไต้หวันได้เลย แต่เน้นว่า ต้องเป็นใบขับขี่ไทยที่ยังไม่หมดอายุหรือยังมีผล สำนักงานการค้าฯ จึงจะรับรองให้ได้ หากหมดอายุแล้วต้องกลับไทยไปต่ออายุก่อนแล้วจึงจะขอรับรองใหม่ได้


กองทะเบียนยานยนต์เถาหยวน (ภาพจากกองทะเบียนยานยนต์ นครเถาหยวน)

กองทะเบียนยานยนต์เถาหยวน (ภาพจากกองทะเบียนยานยนต์ นครเถาหยวน)

กองทะเบียนยานยนต์เถาหยวน (ภาพจากกองทะเบียนยานยนต์ นครเถาหยวน)
- รับบัตรคิว

กองทะเบียนยานยนต์เถาหยวน (ภาพจากกองทะเบียนยานยนต์ นครเถาหยวน)
3. 2 แรงงานเวียดนามผิดกฎหมายขับรถติดป้ายปลอม ไม่เปิดไฟหน้า ขัดขืนการตรวจสอบ ชายถูกจับ หญิงกระโดดลงสะพาน หายสาบสูญไปในแม่น้ำ
ปัญหาแรงงานต่างชาติหลบหนีเป็นแรงงานผิดกฎหมาย กลายเป็นช่องโหว่และความเสี่ยงเสมือนเป็นระเบิดเวลาในสังคม ล่าสุดเมื่อวันที่ 18 ส.ค. เวลา 20.50 น. ตำรวจสถานีตำรวจเป๋ยกั่ง เมืองหยุนหลิน ระหว่างออกตรวจลาดตระเวน ได้พบรถยนต์นั่งส่วนบุคคลคันหนึ่งขับผ่านบริเวณด้านเหนือของสะพานเป๋ยกั่ง โดยไม่เปิดไฟหน้า เมื่อตรวจสอบหมายเลขทะเบียน พบว่าป้ายทะเบียนถูกยกเลิกไปแล้ว จึงขับรถตามไปสกัดเพื่อตรวจสอบ พบชายชาวเวียดนามอายุ 28 ปีซึ่งเป็นคนขับ และมีหญิงชาติเดียวกันอีกหนึ่งคนอยู่ภายในรถ ทั้งสองเห็นตำรวจเรียกให้จอดรถ เปิดประทิ้งรถแล้ววิ่งหลบหนีไปคนละทิศทาง เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมแรงงานชายได้ในเวลาไม่นาน แต่แรงงานหญิงดังกล่าวได้กระโดดลงจากสะพานเป่ยกั่งลงสู่แม่น้ำ แล้วหายเงียบไป เจ้าหน้าที่กู้ภัยออกค้นหาเป็นเวลา 2 วัน ยังไม่พบร่องรอย

2 แรงงานเวียดนามผิดกฎหมายขับรถติดป้ายปลอม ไม่เปิดไฟหน้า ตำรวจตามไปตรวจสอบ หยุดรถหนีชายถูกจับ หญิงกระโดดลงสะพาน หายสาบสูญไปในแม่น้ำ (ภาพจาก watchmedia01-com)
โฆษกสถานีตำรวจเป๋ยกั่งระบุว่า สะพานเป๋ยกั่งเป็นสะพานสำคัญที่ข้ามแม่น้ำเป๋ยกั่งซี เชื่อมระหว่างตำบลเป๋ยกั่งของเมืองหยุนหลินกับตำบลหลิ่วเจี่ยวของเจียอี้ และยังเป็นส่วนหนึ่งของทางหลวงหมายเลข 19 หลังหญิงคนดังกล่าวกระโดดลงไปในแม่น้ำก็หายตัวไป ปัจจุบันเจ้าหน้าที่กู้ภัยยังคงค้นหาอย่างต่อเนื่อง ส่วนชายชาวเวียดนามตรวจสอบแล้วพบว่า เป็นแรงงานต่างชาติหลบหนีนายจ้าง และมีอาชีพขับรถรับจ้างอย่างผิดกฎหมาย จากการสอบสวน ผู้ต้องหายอมรับว่าโดยปกติจะรับส่งแรงงานชาติเดียวกันตามเรียกผ่านโทรศัพท์ และในคืนเกิดเหตุหญิงคนดังกล่าวได้เรียกรถเพื่อเดินทางไปเจียอี้ แต่เขาไม่รู้จักหรือทราบข้อมูลใด ๆ เกี่ยวกับหญิงรายนี้ ต่อคำให้การดังกล่าว ตำรวจอยู่ระหว่างการสอบสวนเพื่อหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติมต่อไป

2 แรงงานเวียดนามผิดกฎหมายขับรถติดป้ายปลอม ไม่เปิดไฟหน้า ตำรวจตามไปตรวจสอบ หยุดรถหนีชายถูกจับ หญิงกระโดดลงสะพาน หายสาบสูญไปในแม่น้ำ (ภาพจากสถานีตำรวจเจียอี้)
สถานีตำรวจเป๋ยกั่งระบุว่า แรงงานเวียดนามผิดกฎหมายรายนี้จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมส่งต่อไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเพื่อควบคุมตัว และจะยังคงประสานงานกับหน่วยกู้ภัยเพื่อเร่งค้นหาหญิงที่กระโดดน้ำต่อไป

หน่อยกู้ภัยตามค้นหาแรงงานหญิงเวียดนามที่กระโดดลงสะพานเป๋ยกั่ง หายสาบสูญไปในแม่น้ำ (ภาพจากสถานีตำรวจเจียอี้)