Skip to the main content block
::: หน้าแรก| แผนผังเว็บไซต์| Podcasts|
|
Language

Formosa Dream Chasers - Programs - RTI Radio Taiwan International-logo

รายการ
| รายการล่าสุด
เลือกรายการ
ผู้จัดรายการ ตารางรายการ
ประเด็น (ข่าว) ยอดนิยม
繁體中文 简体中文 English Français Deutsch Indonesian 日本語 한국어 Русский Español ภาษาไทย Tiếng Việt Tagalog Bahasa Melayu Українська แผนผังเว็บไซต์

ขุนพลแรงงานไทย วันศุกร์ที่ 19 กันยายน 2568

ขุนพลแรงงานไทย สภาอุตสาหกรรมไต้หวันจี้รัฐขยายระยะเวลาทำงานของแรงงานต่างชาติ แก้ปัญหาขาดแคลนแรงงาน
ขุนพลแรงงานไทย สภาอุตสาหกรรมไต้หวันจี้รัฐขยายระยะเวลาทำงานของแรงงานต่างชาติ แก้ปัญหาขาดแคลนแรงงาน

1. สภาอุตสาหกรรมไต้หวันจี้รัฐขยายระยะเวลาทำงานของแรงงานต่างชาติ แก้ปัญหาขาดแคลนแรงงาน กระทรวงแรงงานยันต้องคุ้มครองแรงงานท้องถิ่น กันฉุดค่าจ้างต่ำ

      แม้การส่งออกจะเผชิญปัญหาหลายด้าน แต่ผู้ประกอบการไต้หวันยังคงประสบปัญหารุนแรงจากภาวะขาดแคลนแรงงาน เมื่อวันที่ 2 กันยายนที่ผ่านมา สภาอุตสาหกรรมไต้หวันได้เผยแพร่ "สมุดปกขาวปี 2568" ภายใต้หัวข้อ "ยุทธศาสตร์เศรษฐกิจโลกบนฐานรากไต้หวันในบริบทใหม่" ซึ่งได้ยกประเด็นและข้อเสนอแนะ 9 ด้าน โดยในส่วนของนโยบายแรงงานต่างชาติ สภาฯ เสนอ 5 ข้อหลัก ได้แก่ :

แรงงานไทยในไซต์งานก่อสร้างสถานีซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าที่เขตถูเฉิง นครนิวไทเป (ภาพจาก Rti)

      1. ผ่อนคลายข้อจำกัดสาขาและประเภทอุตสาหกรรมที่จ้างแรงงานต่างชาติ เพื่อบรรเทาวิกฤตแรงงานขาดแคลน

      2. เพิ่มอัตราส่วนโควตาการอนุญาตนำเข้าแรงงานต่างชาติ พร้อมลดภาระเงินสมทบกองทุนคุ้มครองการทำงานของแรงงานท้องถิ่นที่นายจ้างต้องชำระ

      3. ขยายระยะเวลาทำงานของแรงงานต่างชาติในไต้หวัน จากปัจจุบันที่กฎหมายกำหนดไม่เกิน 12 ปีสำหรับภาคการผลิตและ 14 ปีสำหรับภาคสวัสดิการสังคม พร้อมหาแหล่งที่มาของแรงงานต่างชาติประเทศใหม่

      4. เปิดให้แรงงานต่างชาติทำงานแบบจ้างเหมาบริการเช่นในภาคการเกษตรมาใช้ในภาคการก่อสร้าง เพื่อแก้ปัญหาขาดแรงงาน

      5. รัฐบาลควรเจรจาโดยตรงกับประเทศผู้ส่งออกแรงงาน เพื่อลดภาระค่าบริการจัดหางานที่แรงงานต่างชาติต้องแบกรับตั้งแต่ต้นทาง

แรงงานไทยในไซต์งานก่อสร้างอาคารของการเคหะ นครนิวไทเป (ภาพจาก Rti)

      จากการสำรวจล่าสุดของสภาอุตสาหกรรม ปัญหาแรงงานขาดแคลนขึ้นอันดับ 1 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมอาหาร โลหะ วัสดุก่อสร้าง และการก่อสร้าง ซึ่งความต้องการแรงงานถือว่ารุนแรงที่สุด

      นายจันเจิ้งเถียน รองประธานสภาอุตสาหกรรมไต้หวันกล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า “หากไม่มีแรงงาน โรงงานก็เดินเครื่องไม่ได้ นี่คือความจริงที่อุตสาหกรรมดั้งเดิมกำลังเผชิญ” เขาอธิบายว่า วิกฤตเด็กเกิดน้อยทำให้คนรุ่นใหม่ไม่ต้องการทำงานในโรงงาน โดยเฉพาะตำแหน่งที่ใช้แรงงานหนัก เช่น แบกหามหรือกะกลางคืน เขากล่าวว่า “ลูกหลานในครอบครัวไม่ยอมไปทำงานโรงงานอีกแล้ว หากไม่มีแรงงานต่างชาติ โรงงานอยู่ไม่ได้จริง ๆ”

แรงงานไทยในไซต์งานก่อสร้าง

      รองประธานสภาอุตสาหกรรมไต้หวันผู้นี้กล่าวอีกว่า ปัจจุบันแรงงานต่างชาติจำนวนมากถูกจำกัดทำงานอยู่ในสถานประกอบการที่เป็นงานหนัก สกปรก และอันตราย หรือที่เรียกว่ากิจการ 3K รวมถึงบางอุตสาหกรรมการผลิตเท่านั้น แต่ความต้องการแรงงานจริงมีมากกว่านั้น จึงควรเปิดให้ภาคอุตสาหกรรมดั้งเดิมเข้าถึงแรงงานต่างชาติได้มากขึ้น เพื่อรักษากำลังการผลิต นอกจากนี้ ภาระของการชำระเงินสมทบเข้ากองทุนคุ้มครองการทำงานของแรงงานท้องถิ่นที่นายจ้างต้องจ่ายรายเดือนถือว่าหนักและขาดความโปร่งใส เสมือนเพิ่มต้นทุนการดำเนินงาน จึงควรปรับลดเพื่อไม่ให้บั่นทอนศักยภาพในการแข่งขัน

แรงงานไทยในโรงงานผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ในเขตหยางเหมย นครเถาหยวน (ภาพจาก Rti)

      ประเด็นสำคัญอีกประการหนึ่ง ได้แก่การที่แรงงานต่างชาติจำนวนมาก ซึ่งมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญงานในโรงงาน กลับต้องเดินทางกลับประเทศเมื่อครบกำหนดระยะเวลาทำงาน 12 ปี แล้วให้นายจ้างนำเข้าแรงงานคนใหม่มาฝึกฝนต่อไป ทำให้การสูญเสียแรงงานที่มีทักษะฝีมือ และอาจก่อให้เกิดปัญหาการหลบหนีกลายเป็นแรงงานผิดกฎหมาย สภาฯ จึงเสนอให้ขยายเวลาทำงาน รวมถึงจัดให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น เพื่อรักษาแรงงานต่างชาติที่มีทักษะฝีมือไว้ในระบบ

แรงงานไทยในไซต์งานก่อสร้าง

      สำหรับภาคก่อสร้าง สภาฯ เสนอให้นำระบบจ้างเหมาบริการในภาคการเกษตรมาใช้ เพื่อให้มีการจัดสรรแรงงานข้ามไซต์งานตามความจำเป็น ลดปัญหาขาดแคลนเฉพาะหน้า ขณะเดียวกัน แรงงานต่างชาติจำนวนมากยังต้องเผชิญภาระค่าบริการจัดหางานหรือค่าหัวคิวที่บริษัทจัดหางานเรียกเก็บตั้งแต่ก่อนการเดินทาง ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่สูงจนบางคนทำงานทั้งปียังไม่พอชำระหนี้ สภาฯ จึงเสนอให้รัฐบาลเจรจากับประเทศผู้ส่งออกแรงงานโดยตรง เพื่อป้องกันการถูกเอาเปรียบ

แรงงานไทยเป็นกำลังแรงงานกลุ่มหลักในไซต์งานก่อสร้างของไต้หวัน

      ต่อข้อเสนอข้างต้น กระทรวงแรงงานออกแถลงการณ์ตอบรับว่า การแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงานจะยึดหลัก “คุ้มครองการจ้างงานของแรงงานในประเทศก่อน” และ “ป้องกันการกดค่าจ้างต่ำ” เป็นสำคัญ โดยระบุว่า การปรับนโยบายแรงงานต่างชาติทุกครั้งจะอยู่บนหลักการนี้ กระทรวงแรงงานยังกล่าวด้วยว่า จะร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประเมินความต้องการแรงงานและทักษะของแต่ละอุตสาหกรรม ควบคู่กับการส่งเสริมให้แรงงานในประเทศเข้าสู่ภาคการผลิต เพื่อสร้างสมดุลระหว่างการคุ้มครองสิทธิแรงงานท้องถิ่นและการตอบสนองต่อความต้องการแรงงานของอุตสาหกรรม

2. ทลายแก๊งแรงงานเวียดนามจับมือมาเฟียไต้หวัน รับซื้อบัญชีม้าจากเพื่อนร่วมชาติไว้ฟอกเงิน เปิดเว็บชอปหลอกเหยื่อ ยึดทรัพย์กว่า 12 ล้าน จับ 15 คน

      ขบวนการมิจฉาชีพมีการจับมือกันหลายฝ่ายและใช้เทคนิคกลโกงที่นับวันมีความซับซ้อนแนบเนียนมากขึ้น กองบังคับการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรม สำนักงานตำรวจไต้หวันเปิดเผยว่า ขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติซึ่งมีแรงงานเวียดนามเป็นแกนนำ ได้ร่วมมือกับแก๊งมาเฟียในเถาหยวน สร้างเครือข่ายฉ้อโกงและฟอกเงินครบวงจร โดยมีทั้งการรับซื้อบัญชีธนาคารและบัตรเอทีเอ็มของแรงงานเวียดนามทั่วไต้หวัน ส่งต่อให้แก๊งมาเฟียท้องถิ่นอย่างหงเหรินฮุ่ย ใช้ในการหลอกลวง เมื่อเหยื่อหลงกล แรงงานเวียดนามกลุ่มที่รับผิดชอบกดเงินจากตู้เอทีเอ็มจะออกปฏิบัติการและนำเงินที่หลอกลวงได้ไปผ่าน “ห้องฟอกเงิน” ของแก๊งพระอาทิตย์

ตำรวจบุกจับแก๊งแรงงานเวียดนามจับมือมาเฟียไต้หวัน รับซื้อบัญชีม้าจากเพื่อนร่วมชาติไว้ฟอกเงิน โดยเปิดเว็บชอปปลอมหลอกเหยื่อ (ภาพจาก กองบังคับการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรม)

      ขบวนการนี้ใช้ร้านขายไอศกรีมบังหน้า เปิดห้องปฏิบัติการหลอกลวงอยู่ชั้น 2 ใช้วิธีชักจูงให้เหยื่อชอปปิงออนไลน์ในเว็บปลอม เมื่อผู้เสียหายโอนเงินค่าสินค้าเข้าบัญชีแรงงานเวียดนามที่รับซื้อมา แรงงานเวียดนามกลุ่มที่รับผิดชอบจะ ไปกดเงินออกมา ส่งต่อให้แกนนำฟอกเงินเป็นชั้น ๆ เพียงเวลาหนึ่งปี ขบวนการนี้สามารถกวาดเงินได้กว่า 12 ล้านเหรียญไต้หวัน มีผู้เสียหายนับร้อยราย ตำรวจบุกทลายจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 15 คน ในจำนวนนี้เป็นชายชาวไต้หวันที่เป็นสมาชิกกลุ่มอิทธิพลในเถาหยวน 4 คน แรงงานเวียดนามผิดกฎหมาย 11 คน ศาลท้องถิ่นไทจงตัดสินจำคุกผู้ต้องหาตั้งแต่ 10-30 ปี

ตำรวจบุกจับนายเหงียน หัวหน้าแก๊งแรงงานเวียดนามที่จับมือมาเฟียไต้หวัน รับซื้อบัญชีม้าจากเพื่อนร่วมชาติไว้ฟอกเงิน โดยเปิดเว็บชอปปลอมหลอกเหยื่อ (ภาพจาก udn.com)

      โฆษกกองบังคับการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมแถลงว่า ผู้ต้องหาหลักคดีนี้ คือนายเหงียน อายุ 24 ปี แรงงานเวียดนามที่เดินทางมาไต้หวันเมื่อ 3 ปีก่อน เขาพบว่าขบวนการฉ้อโกงสามารถทำกำไรมหาศาล จึงรวบรวมแรงงานเวียดนามที่หลบหนีนายจ้างตั้งแก๊งรับจ้างกดเงินให้แก่แก๊งคอลเซนเตอร์ และรับซื้อบัญชีธนาคาร-บัตรเอทีเอ็มของแรงงานชาติเดียวกันทั่วไต้หวันในราคาชุดละ 16,000–21,000 เหรียญ จากนั้นกระจายบัตรให้หัวหน้ากลุ่มในหลายเมือง ส่งต่อให้สมาชิกในกลุ่มที่มีหน้าที่กดเงินตามตู้เอทีเอ็ม ก่อนส่งเงินต่อไปยังห้องฟอกเงินของแก๊งมาเฟียท้องถิ่น ซึ่งมีทั้งที่ใช้เงินสดและสกุลเงินดิจิทัลเพื่อปกปิดเส้นทางการเงิน

ตำรวจบุกจับนายเฉิน หัวหน้าแก๊งอิทธิพลท้องถิ่น บงการแก๊งของนายเหงียนรับซื้อบัญชีม้าจากแรงงานเวียดนามไว้ฟอกเงิน โดยเปิดเว็บชอปปลอมหลอกเหยื่อ (ภาพจาก กองบังคับการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรม)

      หน่วยปราบปรามอาชญากรรมสากล กองบังคับการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมของสำนักงานตำรวจไต้หวันได้รับเบาะแสตั้งแต่พฤศจิกายนปีที่แล้ว และได้ตรวจสอบติดตามจนถึงสิงหาคมปีนี้ ส่งกำลังตำรวจบุกค้น 5 ระลอก บุกทลายฐานปฏิบัติการหลายจุดทั่วประเทศ จับกุมผู้ต้องหาทั้งหมด 15 คน พร้อมของกลาง ได้แก่ เหรียญคริปโตจำนวน 388,888 เหรียญ มูลค่าราว 11.16 ล้านเหรียญไต้หวัน เงินสด 850,000 เหรียญ บัตรเอทีเอ็ม 60 ใบ คอมพิวเตอร์พร้อมอุปกรณ์อ่านบัตร 10 เครื่อง ปืนบีบีกัน ปืนจำลอง และกระสุน 175 นัด ยาเสพติดหลายชนิด รวมถึงคีตามีน กัญชาและเอโทมิเดต หรือที่รู้จักกันในชื่อยาซอมบี้

ตำรวจบุกจับนายหลิน หัวหน้าแก๊งอิทธิพลท้องถิ่น บงการแก๊งของนายเหงียนรับซื้อบัญชีม้าจากแรงงานเวียดนามไว้ฟอกเงิน โดยเปิดเว็บชอปปลอมหลอกเหยื่อ (ภาพจาก กองบังคับการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรม)

      ศาลท้องถิ่นไทจงได้ตัดสินลงโทษในคดีนี้ นายเหงียนหัวหน้าแก๊งชาวเวียดนาม ถูกตัดสินจำคุก 12 ปี 6 เดือน ขณะที่หัวหน้ากลุ่มกดเงินชาวเวียดนามอีกคน ถูกจำคุก 10 ปี 2 เดือน ส่วนนายหลิน แกนนำฝั่งไต้หวัน ถูกอัยการสั่งฟ้องในข้อหาฉ้อโกง ฟอกเงิน และจัดตั้งหรือเข้าร่วมองค์กรอาชญากรรม พร้อมระบุโทษจำคุกสูงสุดถึง 30 ปี

ตำรวจยึดของกลาง เช่น บัตรเอทีเอ็มและสมุดบัญชีธนาคารที่รับซื้อมาจากแรงงานเวียดนามกว่า 60 ชุด (ภาพจาก กองบังคับการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรม)

      ตำรวจย้ำว่า คดีนี้สะท้อนถึงแนวโน้มอาชญากรรมไซเบอร์ที่ซับซ้อนและนานาชาติมากขึ้น ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างประเทศในการปราบปราม

3. แรงงานเวียดนามที่เกาสง ไม่มีปัญญาจ่ายค่าเช่าบ้าน 4,000 ใช้อิฐทุบหัวเจ้าของบ้านชิงทรัพย์หลบหนี เปลี่ยนเสื้อย่องกลับมาถูกตำรวจจับ

      เกิดเหตุชิงทรัพย์สะเทือนขวัญคดีหนึ่งที่เขตต้าเหลียว นครเกาสง นายเล แรงงานเวียดนาม อายุ 21 ปี ไม่สามารถจ่ายค่าเช่าห้องจำนวน 4,000 เหรียญไต้หวันได้ จึงแอบซ่อนตัวอยู่ในบ้าน รอจังหวะเจ้าของบ้านซึ่งเป็นหญิงอายุ 70 ปีมารับค่าเช่า ก่อนใช้ก้อนอิฐฟาดศีรษะของเจ้าของบ้านหลายครั้ง จากนั้นแย่งชิงกระเป๋าบนรถจักรยานยนต์ของเธอแล้วหลบหนีไป ผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บสาหัสจนไม่สามารถลุกขึ้นได้ ต้องใช้มือตีประตูเหล็กเพื่อขอความช่วยเหลือ ผู้เช่ารายอื่นได้ยินเสียงจึงรีบแจ้งตำรวจและหน่วยกู้ภัย ต่อมาผู้ก่อเหตุรายนี้ยังกลับไปที่ห้องพักเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า แสร้งทำตัวปกติและร่วมพูดคุยกับเพื่อนบ้านเกี่ยวกับเหตุการณ์เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบพิรุธและสามารถจับกุมได้ทันที ส่วนเหยื่อที่เป็นเจ้าของบ้านมีบาดแผลที่ศีรษะต้องเย็บหลายเข็ม นิ้วมือถูกตีจนกระดูกแตก และยังต้องดูแลสามีที่มีปัญหาด้านการเคลื่อนไหว เธอกล่าวด้วยความเจ็บปวดว่า แรงงานคนนี้ตั้งใจจะฆ่าฉันให้ตาย

ตำรวจจับนายเล แรงงานเวียดนามที่เกาสง ไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าบ้าน 4,000 ใช้อิฐทุบหัวเจ้าของบ้านชิงทรัพย์หลบหนี

      เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อค่ำวันที่ 28 สิงหาคม เวลาประมาณ 20.00 น. เจ้าของบ้านที่เป็นหญิงชราอายุ 70 ปี ขี่จักรยานยนต์ไปยังบ้านของตนที่ปล่อยเช่าบนถนนฟ่งหลิน เขตต้าเหลียว เพื่อเก็บค่าเช่า แต่ถูกคนเช่าบ้านทำร้ายและชิงกระเป๋าไป คนร้ายพยายามขี่จักรยานยนต์ของผู้เสียหาย แต่ไม่พบกุญแจ จึงวิ่งหลบหนีไป ระหว่างก่อเหตุได้ใช้ก้อนอิฐฟาดที่ท้ายทอยของเจ้าของบ้านจนเลือดอาบ นิ้วมือที่พยายามยกขึ้นป้องกันศีรษะก็ถูกตีจนกระดูกแตก

กล้องบันทึกภาพนายเลใช้ผ้าคลุมหัวเพื่อปิดหน้าหลบหนี หลังใช้ก้อนอิฐทุบหัวหญิงเจ้าของบ้านแล้วชิงทรัพย์ (ภาพจากกล้องวงจรปิด)

      เจ้าของบ้านเล่าถึงเหตุการณ์ว่า ขณะเข้าไปที่บ้านให้เช่ากำลังจะเปิดไฟ ยังไม่ทันเปิดก็ถูกตี ตอนแรกคิดว่าไฟดับแล้วมีเศษอิฐจากหลังคาตกลงมา เลยก้มตัว แต่กลับถูกตีซ้ำอีก 5–6 ครั้ง จนต้องคลานหนี เมื่อคนร้ายตีเสร็จก็ฉุดกระเป๋าฉันไป จนกระเป๋าขาดหมด ศีรษะแตกเป็นแผลใหญ่ เย็บไปหลายเข็ม วันแรกอาเจียนไม่หยุด กินอะไรก็อาเจียนออกหมด

กล้องบันทึกภาพนายพยายามจะขี่รถมอเตอร์ไซค์ของเจ้าของบ้าน แต่หากุญแจไม่เจอ หลังใช้ก้อนอิฐทุบหัวหญิงเจ้าของบ้านแล้วชิงทรัพย์ (ภาพจากกล้องวงจรปิด)

      ตำรวจตรวจสอบพบว่า ผู้ต้องหาคือนายเล แรงงานเวียดนาม อายุ 21 ปี เช่า 1 ในห้องพักในบ้านหลังนี้ โดยจ่ายค่าเช่าเพียงเดือนเดียว หลังจากนั้นไม่มีเงินจ่ายอีก และเป็นฝ่ายนัดเจ้าของบ้านอ้างว่าจะนำค่าเช่ามาชำระ แต่แท้จริงคือวางแผนก่อเหตุชิงทรัพย์

นายเลเปลี่ยนใส่เสื้อยืดสีเหลือง ย่องกลับมาที่เกิดเหตุเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพื่อหาโอกาสเอาข้าวของสัมภาระที่ห้องพัก แต่ถูกตำรวจจับก่อน

      หลังเกิดเหตุ ตำรวจได้นำกำลังตรวจสอบกล้องวงจรปิดในพื้นที่ และจับกุมผู้ต้องหาได้หลังเปลี่ยนเสื้อย่องกลับมาที่เกิดเหตุเพื่อเอาสัมภาระ โฆษกสถานีตำรวจต้าเหลียวเปิดเผยว่า สถานีตำรวจได้รับแจ้งว่า ผู้เสียหายหญิงถูกคนร้ายใช้ก้อนอิฐตีศีรษะ ได้รับบาดเจ็บแต่ไม่อันตรายถึงชีวิต ผู้ก่อเหตุได้ชิงกระเป๋าและเงินสดในกระเป๋าไป จากนั้นเปลี่ยนเสื้อผ้าย่องกลับไปที่ห้องพักและถูกจับกุมโดยทีมสืบสวน เบื้องต้นพบว่าแรงงานเวียดนามรายนี้ก่อเหตุเพราะไม่สามารถจ่ายค่าเช่าได้ คดีนี้ถูกส่งฟ้องต่อสำนักงานอัยการเกาสง ในข้อหาชิงทรัพย์และพยายามฆ่า

นายเลเปลี่ยนใส่เสื้อยืดสีเหลือง ย่องกลับมาที่เกิดเหตุเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพื่อหาโอกาสเอาข้าวของสัมภาระที่ห้องพัก แต่ถูกตำรวจจับก่อน

      หญิงเจ้าของบ้านวัยกว่า 70 ปีกล่าวให้สัมภาษณ์ในอาการที่ยังไม่หายจากความตกใจว่า บ้านของตนแบ่งให้เช่า 4–5 ห้อง ทั้งชาวไต้หวันและแรงงานต่างชาติ แรงงานเวียดนามรายนี้เพิ่งย้ายมาเพียงสองเดือน และจ่ายค่าเช่าเพียงเดือนเดียว หลังเหตุการณ์ครั้งนี้ เธอตัดสินใจจะไม่ปล่อยเช่าอีก เมื่อสัญญาปัจจุบันครบกำหนด จะเก็บห้องคืนและขายบ้าน เข็ดแล้วไม่กล้าเสี่ยงให้ใครเช่าอีกต่อไป

為提供您更好的網站服務,本網站使用cookies。

若您繼續瀏覽網頁即表示您同意我們的cookies政策,進一步了解隱私權政策。 

我了解